พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [10. สังคีติสูตร] สังคีติหมวด 8
3. สงฆ์พึงให้อมูฬหวินัย1
4. สงฆ์พึงให้ปฏิญญาตกรณะ2
5. สงฆ์พึงให้เยภุยยสิกา3
6. สงฆ์พึงให้ตัสสปาปิยสิกา4
7. สงฆ์พึงให้ติณวัตถารกะ5
ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย นี้แล คือธรรมหมวดละ 7 ประการ ที่พระผู้มีพระภาค
ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ตรัสไว้โดยชอบแล้ว
พวกเราทั้งหมดนี้แหละพึงสังคายนา ไม่พึงวิวาทกันในธรรมนั้น ฯลฯ เพื่อประโยชน์
เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
สังคีติหมวด 7 จบ
ภาณวารที่ 2 จบ
สังคีติหมวด 8
[333] ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ธรรมหมวดละ 8 ประการที่พระผู้มีพระภาค
ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ตรัสไว้โดยชอบแล้ว
มีอยู่ พวกเราทั้งหมดนี้แหละพึงสังคายนา ไม่พึงวิวาทกันในธรรมนั้น ฯลฯ เพื่อ
ประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [10. สังคีติสูตร] สังคีติหมวด 8
ธรรมหมวดละ 8 ประการ คืออะไร
คือ
1
มิจฉัตตะ1(ความเป็นธรรมที่ผิด) 8
1. มิจฉาทิฏฐิ (เห็นผิด)
2. มิจฉาสังกัปปะ (ดำริผิด)
3. มิจฉาวาจา (เจรจาผิด)
4. มิจฉากัมมันตะ (กระทำผิด)
5. มิจฉาอาชีวะ (เลี้ยงชีพผิด)
6. มิจฉาวายามะ (พยายามผิด)
7. มิจฉาสติ (ระลึกผิด)
8. มิจฉาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นผิด)
2
สัมมัตตะ2 (ความเป็นธรรมที่ถูก) 8
1. สัมมาทิฏฐิ (เห็นชอบ)
2. สัมมาสังกัปปะ (ดำริชอบ)
3. สัมมาวาจา (เจรจาชอบ)
4. สัมมากัมมันตะ (กระทำชอบ)
5. สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)
6. สัมมาวายามะ (พยายามชอบ)
7. สัมมาสติ (ระลึกชอบ)
8. สัมมาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นชอบ)